#happyjaeminday





09:17 .
JPARK : เข้าสายเกิน 10 นาทีล็อคห้อง
JPARK : อยู่ไหนแล้ว




09:32 .
JPARK : มึงตื่นยังเนี่ย
JPARK : วันนี้ประกาศคะแนนเก็บด้วย มึงเข้าป่ะเนี่ย โดดไม่ได้แล้วนะเว้ย
JPARK : วันนี้น่าจะปิดคลาสแล้วอาจารย์ มาฟังแนวข้อสอบจะไม่ใจดีกับมึงแล้วนะ
JPARK : แจมิน!!!!!!!!
It’s NA: ใต้ตึกๆ รีบอยู่
JPARK : อีก 8 นาทีจะล็อคห้องแล้ว ให้ไว
It’s NA: อือ


เอาไงทีนี้
มึงอย่าคิดมาก
มึงต้องทำไฟนอลเกือบเต็มถึงจะผ่านเพื่อสนิทตาเล็กขมวดคิ้วจนเป็นปม
 ระดับนี้แล้วแจมินไหวไหล่แล้วเริ่มเก็บของใส่กระเป๋า
มึงเครียดหน่อยไหมหันไปถามด้วยความเป็นห่วงแต่ได้วิ้งค์กลับมา
ไม่ตลกนะเว้ย กูไม่หวั่นไหวด้วย
ใจแข็งจังอ่ะใช้มือสองข้างท้าวคางทำปากยู่หมวดคิ้วน้อยๆเหมือนเด็กถูกขัดใจ
มึงเลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีจีซองผลักหัวเพื่อนเบาๆ
ป่ะ กินข้าวกัน
ทุกที

.
.
.

แสงสุดท้ายเข้าโอบล้อมอาคารเรียนและบริเวณรอบๆ ห้องเรียนภาคพิเศษเริ่มการเรียนการสอนแล้ว ส่วนห้องเรียนสำหรับภาคปกตินั้นร้างผู้คน ยามนี้พระอาทิตย์ตกแล้วในรั้วมหาลัยต่างจากด้านนอกที่แสงแรกกำลังขึ้นสู่ท้องฟ้า ความวุ่นวาย เสียงรถ เสียงพูดคุยจอแจเริ่มขึ้นเหมือนทุกวัน มื้อที่สี่ ห้า หรือหกเป็นเรื่องปกติสำหรับมนุษย์ค้างคาว การอกหักของเพื่อนเพียงคนเดียวในกลุ่มสามารถลากคนอีกเป็นโขยงออกจากหอพักมาฟังมันสาธยายเรื่องดราม่าของมัน


ไม่ว่ะ วันนี้ไม่มีอารมณ์ออก
“…”
อือ ขอบใจ .. เค มือบางเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า


บานประตูกระจกขุ่นๆถูกเปิดออกโดยพละการ ร่างสูงบนเก้าอี้พนักพิงสูงเหลือบตาขึ้นมอง พบนักศึกษาชายในชุดผิดระเบียบมองตรงมาที่เขาเช่นกัน ความเงียบโรยตัวลงชั่วขณะ

ถ้าคุณใส่ใจการอ่านมากกว่านี้ จะรู้ว่าห้องของผมห้ามรบกวนร่างสูงวางปากกาในมือแล้วจ้องกลับ
อ่า ครับ พอดีผมไม่ทันอ่านว่าแล้วก็แทรกตัวเข้ามาด้านในห้อง เลื่อนประตูปิดอย่างเบามือ
แจมิน..”
ครับ?”
คุณมีธุระอะไรกับผมอาจารย์หนุ่มใช้นิ้วดับกรอบแว่นขึ้นเล็กน้อย มองนักศึกษาชายในเสื้อนักศึกษาตัวโคร่งปลายเสื้อข้างหนึ่งปล่อยชายอีกข้างเก็บเข้าข้างในกางเกงยีนส์ซีดขาดเข่า ผมสีชมพูเทาเซทเปิดหน้าผากเล็กน้อย กำไลข้อมือสีเงินทำให้ผิวขาวเนียนน่ามอง

ขายาวก้าวเดิน ลดระยะห่างระหว่างเรา

แจมินเข้าประชิดโต๊ะทำงาน เอกสารที่จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบถูกเลื่อนไปด้านข้าง ร่างบางก้มลงโน้มตัวไปหาคนอีกด้านของโต๊ะ นิ้วเรียวรั้งเนคไทให้คลายออกคล้ายจะบอกว่าหมดเวลาทำงานแล้ว ร่างสูงถอนหายใจมุมปากยกยิ้มบาง ดันตัวออกห่างจากโต๊ะดึงถอดเนคไทลงให้ต่ำกว่าเดิม เอียงคอเล็กน้อยแล้วตบตักเบาๆคล้ายกำลังตั้งประโยคคำถาม ร่างโปร่งยิ้มเป็นคำตอบ
ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนตักแกร่งหันหน้าเข้าหาอาจารย์หนุ่ม มือบางทั้งสองข้างวางลงที่ไหล่กว้าง มือแกร่งวางลงบนเอวคอด แค่วาง เสียงกลองสันทนาการจากด้านนอกทำให้รู้ว่าภายในอาคารนี้เงียบแค่ไหน ไม่มีใครพูดอะไร เพียงสองตาสอดประสานหยั่งเชิงอยู่อย่างนั้น
ริมผีปากบางประทับลงบนปากหยักอย่างนุ่มนวลแล้วค่อยๆถอยออกอย่างอ้อยอิ่ง

พี่โน่
ไม่เอาหน่าแจม
พี่โน่ครับ
เราตกลงกันแล้วไงว่าหากอยู่ในหาลัยเราเป็นเพียงอาจารย์และนักศึกษาเท่านั้น
สายตาที่พี่มองผมในห้องมันน่ากลัวมากๆ
แจมิน เวลาที่พี่สอนก็เป็นแบบนี้แหล่ะ
แต่ผมกลัวใบหน้าหวานซบลงบนไหล่ของอาจารย์หนุ่มปลายจมูกรั้นเริ่มคลอเคลียลำคอแกร่งคล้ายสัตว์เลี้ยงกำลังออดอ้อนเจ้าของ ส่ายหัวน้อยๆจนผมนิ่มคลอเคลียติ่งหู
          อือ แจมคนพี่เลื่อนมือประสานกันไว้หลวมๆด้านหลังเอวบาง
          ห้ามมองผมแบบนั้นอีกพูดอู้อี้อยู่ที่ไหล่
          พี่ก็มองนักศึกษาทุกคนแบบนั้น
          ร่างบางเริ่มดูดดุนซอกคอแกร่งเขาไม่ชอบให้ใครมาขัดใจโดยเฉพาะคนตรงหน้านี้ ถ้าอ้อนแล้วไม่ได้เขาก็จะไม่อ้อนอีก ลิ้นชื้นเล็มเลียขมเม้มจากนั้นเคลื่อนมาจูบดูดบริเวณใต้ลูกกระเดือกแล้วค่อยๆเลื่อนต่ำลง
แจมครับ นี่ห้องพักอาจารย์นะ ยิ่งห้ามเขาก็จะยิ่งดื้อ มือบางถอดเนคไทแล้วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต นิ้วเรียวนวดคลึงยอดอกคนพี่สร้างความรู้สึกปั่นป่วนจนเจโน่ต้องจับไหล่แจมินแล้วดันออก
จริงๆแจมินเป็นเด็กดี เขาอยู่ในข้อตกลงระหว่างเราเสมอ แต่ที่ต้องบุกมาถึงห้องพักอาจารย์ในวันนี้เพราะเขาทนไม่ไหวแล้ว หลายเดือนมานี้เจโน่ทำตัวเหินห่าง บ้างาน ชวนไปกินข้าวที่บ้านก็ปฏิเสธบ่อยครั้ง เจอกันที่คลาสเรียนก็ทำตัวปกติ หมายถึงดุเป็นปกติหน่ะนะ สายตาที่ใช้กวาดมองนักศึกษาไม่ต่างอะไรจากเหยี่ยวไม่เว้นแม้แต่แจมิน เวลาเดทก็ไม่ค่อยทำอะไรๆเหมือนเดิม มันน่าหงุดหงิด
จนแจมินสงสัยว่าเจโน่จะมีคนอื่น แต่จากการสังเกตุพฤติกรรมก็ไม่ได้ไปเจ๊าะแจ๊ะกับใครที่ไหนแถมยังปล่อยให้เขาเล่นโทรศัพท์ได้เหมือนเดิมแจมินเข้าทุกโปรแกรทแชทและโซเชียลก็ไร้วี่แววมือที่สาม หรือเจโน่จะเบื่อเขาแล้ว
แจมินจะไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้น . .

ทั้งสองมองหน้ากัน ใบหน้าคมแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจคล้ายจะตำหนิการกระทำที่ไม่เหมาะสมแต่แววตาที่จ้องเขากลับมากลับดูสดใสดวงตากลมโตฉายแววว่ากำลังสนุกที่ได้แกล้งตน นักศึกษาหนุ่มยกยิ้ม มือบางถอดแว่นกรองแสงของเขาโยนที่ไปแล้วดึงเขาเข้ามาจูบ แจมินกัดเบาๆที่ริมฝีปากล่างเพื่อขอให้คนพี่เปิดทางให้เสียที

.
.
.  
         



9 years ago …

อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนสิเจโน่คุณแม่ยังสาวกล่าวชวนติวเตอร์คนโปรดของลูกชาย
ขอบคุณครับคุณน้า พอดีว่าผมมีนัดทำงานกลุ่มต่อหน่ะครับ
พี่เจโน่มีธุระต่อทุกทีไม่เคยอยู่กินข้าวกับผมเลย
เด็กน้อยคนเดียวในบ้านพูดขึ้น น้ำเสียงและสีหน้าแสดงออกถึงความน้อยใจ ปากเล็กๆนั่นกำลังคว่ำลงเหมือนเป็ด เรียกร้อยยิ้มจากคนพี่ได้เป็นอย่างดี
ไว้คราวหน้านะครับ
หนุ่มตี๋แว่นกลมย่อตัวลงมาลูบหัวเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู ทั้งๆที่เขาเกลียดเหล่ามนุษย์ตัวน้อยๆที่ไร้เหตุผลชอบร้องไห้โวยวายเพื่อของที่ต้องการ มันดูน่ารำคาญมากกว่าเอ็นดู ก่อนจะตกลงรับสอนพิเศษก็ชั่งใจอยู่นาน จนสุดท้ายก็ตกลงด้วยเหตุผลว่าอยากเอาชนะใจตัวเอง แล้วก็จริง เด็กก็ไม่ได้แย่อย่างที่เขาคิดทุกคนหรอก

คราวครั้งหน้าที่มาสอนนะ!” ถ้าผมไม่คิดไปเองเสียงเล็กนั้นเปลี่ยนไปรึเปล่านะ มันฟังดูน่ารักขึ้น? ว่าแล้วเด็กแก้มกลมก็โบกมือหยอยๆยิ้มแฉ่งให้ผม อือ ก็น่ารักดี

.
.
.


หลังจากขึ้นปี 4 ได้เพียงสองอาทิตย์ผมก็ตัดสินใจเลิกสอนพิเศษ ผมไม่ได้ไปบอกกับแจมินด้วยตัวเองแต่บอกผ่านคุณน้าไป ท่านก็เข้าใจถึงความจำเป็นของผมดี การเรียนปีสุดท้าย ไม่ได้หนักหน่วงเท่าปีที่ผ่านๆมากแต่ที่หนักหน่วงจนเรียกได้ว่าเป็นบทสุดสอบสุดท้ายของการเรียนปริญญาตรีคือวิทยานิพนธ์ บางที่เรียกว่าเล่มจบ
ตารางเรียนว่างโล่งหรือบางวันว่างทั้งวันไม่ได้มีไว้นอนเล่น ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องแลป นั่งหน้าเครียดอยู่หน้าคอม เข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อส่งความคืบหน้าอาทิตย์ละครั้ง ถ้าเครียดจนทนไม่ไหวหรือนึกอยากจะประชดชีวิตเพราะผลแลปเฟลก็ย้ายร่างไปสิงที่ร้านประจำ ชนแก้วกับเพื่อนๆฟังดนตรีสดเป็นการปลดปล่อยความเครียดแล้วกลับมานอน

"น้องไม่ยอมกินข้าวเลยเจโน่"
คิ้วเข้มขมวดเป็นปมหลังจากได้ทราบว่าแจมินไม่ยอมเปิดรับพี่ติวเตอร์คนใหม่ เด็กดื้อถามถึงแต่เขา คุณน้าบอกว่าวันนี้แจมินร้องไห้เพราะคิดถึงติวเตอร์คนเดิมจึงอดไม่ไว้เลยต่อสายมา น้ำเสียงหญิงวัยกลางคนเต็มไปด้วยความกังวล ท่านไม่อยากรบกวนเขาสักเท่าไรแต่พอเห็นลูกชายสุดที่รักซึมลงเรื่อยๆก็จนปัญญา ท่านขอร้องให้ผมไปเที่ยวหาน้อง แค่นานๆครั้งก็ยังดีไม่ต้องมาสอนพิเศษเหมือนเดิมก็ได้ ผมตกลง
เย็นวันรุ่งขึ้นผมแวะเข้าไปแจมินและคุณน้า เพียงแค่บานประตูเปิดออกเด็กน้อยวิ่งโผเข้ามากอดผมเต็มแรงจนผมเซไปด้านหลัง ผมกอดตอบเบาๆพร้อมกับลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่ม แจมินสูงขึ้นจากที่เจอกันครั้งที่แล้ว(ก่อนปิดเทอมม.1)ก่อนหน้านี้สูงไม่ถึงไหล่ ตอนนี้สูงเท่าๆกับไหล่ของผมแล้วไม่แปลกเพราะเด็กผู้ชายจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงวัยนี้ เย็นวันนั้นเราทั้งสามเข้าครัวด้วยกันแจมินดูกระตือรือล้นจนคุณน้าเอ่ยแซว ผมขอตัวกลับหลังจากทานมื้อเย็นแต่ถูกเด็กดื้อรั้งเอาไว้ให้อยู่ต่ออีกหน่อย
คุณน้าแยกตัวไปอาบน้ำและสะสางงานค้างจากบริษัท ส่วนเราสองคนนั่งจุ้มปุ๊กบนโซฟาหน้าทีวีที่ห้องนั่งเล่น ผมทำข้อตกลงกับแจมินว่าต้องตั้งใจเรียนไม่ดื้อกันคุณน้า แล้วผมจะแวะมาหาอาทิตย์ละครั้ง ถามว่าทำแบบนี้ผมได้อะไร ไม่รู้สิ ได้ความสบายใจมั้ง การมาเที่ยวหาแจมินกับคุณน้ามันทำให้ผมสบายใจ แทนที่จะไปเมาให้เพื่อนแบกกลับหรือแบกเพื่อนกลับ เปลี่ยนมาเล่นกับเด็กก็ดีเหมือนกันเพราะเด็กก็คือเด็ก รู้สึกอะไรก็พูดแบบนั้น ไม่ซับซ้อนไม่ต้องคอยมาถอดพูด ว่าพูดแบบนี้หมายความว่าไงให้ปวดหัว
เราคุยกันไปเรื่อยๆเรื่องที่คุยก็ไม่ได้มีสาระอะไร ผมได้รู้อีกอย่าง แจมินเป็นเด็กบ้าจี้ เด็กน้อยดิ้นไปมาหลบนิ้วที่พยายามจะจี้สีข้างของตัวเองจนล้มลง ผมไม่ยอมแพ้ยกตัวขึ้นตามไปจั้กกะจี้ เสียงหัวเราะร่วนดังไปกับเสียงทีวี
"ฮื่อ พอแล้วๆ พี่โน่ ฮ่าๆๆ"
แจมินหัวเราะจนหน้าแดงน้ำตาไหลผมเลยยั้งมือ รู้ตัวอีกทีเราอยู่ในท่าที่ล่อแหลมจนหากใครผ่านมาเห็นคงคิดดีไม่ได้ แจมินนอนหงายชันเข่าขึ้นกางเกงบาสตัวใหญ่ที่ยาวปิดเข่าร่นขึ้นมาถึงเหนือต้นขามือข้างหนึ่งพยายามจับมือผมไว้ไม่ให้จี้เอวตัวเองอีกข้างดันไหล่ของผม เสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินเลิกสูงจนเห็นหน้าท้องเนียน ถ้าเป็นภาษาแก๊งผมคงเรียกว่า วิวดี
ผมยังจำความรู้สึกตอนแจมินบอกชอบผมได้ ตอนนั้นผมเริ่มสอนน้องไปได้เดือนกว่าๆ เด็กชายมีแววตามุ่งมั่นมือน้อยๆกำดินสอแน่น น้องพูดทุกคำอย่างชัดเจน "ผมชอบพี่เจโน่" คุณน้าที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ถึงกับหลุดขำ ผมก็เช่นกันแต่ต้องกลั้นไว้ "ชอบพี่ก็ต้องตั้งใจเรียนตั้งใจฟังที่พี่สอนด้วยนะครับ" ผมยิ้มแล้วลูบหัวน้องเบาๆ ตอนนั้นผมคิดว่าคำว่า'ชอบ'ของเราตรงกัน หมายถึงผมชอบน้องที่เป็นน้องชายและแจมินชอบผมที่เป็นพี่ชาย
ภาพที่เห็นทำให้ผมใจเต้นแรง แจมินยังคงหายใจแรงเพราะเมื่อกี้หัวเราะจนเหนื่อย ผมค่อยๆยกขาที่คร่อมตัวน้องออกแล้วถอยออกมา บอกลาแจมินและตะโกนบอกคุณน้าที่อยู่ชั้นสอง ผมเข้ามาตั้งสติในรถแล้วขับกลับคอนโด

.
.
.

แจมเลือกเรียนต่อสายวิทย์คณิตเพราะเลือกตามผม ทั้งๆที่ผมพยายามอธิบายให้ฟังว่าให้เลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบถ้าเลือกในสิ่งที่ชอบผลลัพธ์มันจะออกมาดีแต่แจมตอบกลับมาว่า
"ก็แจมชอบพี่โน่ไง" ผมก็ไม่รู้จะไปต่อยังไง
จนถึงตอนนี้แจมอยู่ม.6กำลังจะเลือกเข้ามหาลัยก็บอกว่า
"แจมจะเข้ามหาลัยที่พี่โน่สอน" ผมถึงกับกุมขมับ
ผมว่าแจมินติดผมมากเกินไป แต่ก็แปลกที่ผมไม่เคยรำคาญ พวกเพื่อนๆแซวว่าผมเลี้ยงต้อยตอนแรกๆก็แก้ตัวแต่ตอนนี้ยอมรับว่าความรู้สึกผมเปลี่ยนไป แจมินไม่ใช่เด็กตัวน้อยๆอีกต่อไปแล้ว น้องโตขึ้นเป็นวัยรุ่นเต็มตัว สูงขึ้นจนตัวเท่าๆกับผม ใบหน้าหวานปนหล่อแบบunisexจะมองว่าหล่อก็หล่อมากจะมองว่าสวยก็สวยมากถึงจะเป็นตัวแสบประจำบ้านแต่แจมินก็เป็นคนน่ารักของรุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียนทำให้เป็นที่หมายปองทั้งชายและหญิงในโรงเรียนรวมไปถึงโรงเรียนระแวกใกล้เคียง
จนช่วงนั้นผมแอบเสียself แอบหนีไปเพิ่มน้ำหนักเข้ายิมยกเหล็กและผลก็เป็นที่น่าพอใจ ตัดสินใจทำเลสิคเพราะไม่อยากใส่แว่น ทุกๆการเปลี่ยนแปลงของผมอยู่ในสายตาของแจมิน
ตอนพี่ใส่แว่นแล้วน่ารักจะตายน้องบอกผมแบบนั้นผมเลยต้องหาแว่นกรองแสงมาใส่





ตอนที่ยังไม่รู้สึกอะไรกับน้อง ผมก็มีแฟน แจมินไม่ใช่ตัวเลือกของผม ไม่เคยเป็นตัวเลือกด้วยซ้ำ ตั้งแต่ก่อนจะมีแจมินเข้ามาในชีวิต ผมเคยคบทั้งชายและหญิงทั้งต่างวัยและเท่ากันได้แอบชอบ แอบรัก บอกรัก อกหักมาก็หลายหน สุดท้ายผมก็รู้ว่าแจมินคือคำตอบของผม ท้ายที่สุดแล้วผมเลือกแจมิน ต่างจากแจมินที่เพียงผม ผมดีใจนะที่ได้เป็นรักแรก จูบแรก แฟนคนแรกและครั้งแรกของแจมิน แต่นั่นทำให้ผมคิดได้ว่าแล้วแจมินหล่ะ ถ้าแจมินได้ลองรู้จักกับคนอื่นๆแจมินจะเปลี่ยนไปไหม บางทีน้องอาจจะชอบผู้หญิงก็ได้






Now

ทั้งสองมองหน้ากัน ใบหน้าคมแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจคล้ายจะตำหนิการกระทำที่ไม่เหมาะสมแต่แววตาที่จ้องเขากลับมากลับดูสดใสดวงตากลมโตฉายแววว่ากำลังสนุกที่ได้แกล้งตน นักศึกษาหนุ่มยกยิ้ม มือบางถอดแว่นกรองแสงของเขาโยนที่ไปแล้วดึงเขาเข้ามาจูบ แจมินกัดเบาๆที่ริมฝีปากล่างเพื่อขอให้คนพี่เปิดทางให้เสียที

ร่างหนาลุกขึ้นยืน ด้วยความตกใจ แจมินรีบกอดคอและใช้ขาเกี่ยวเอวเจโน่ไว้แน่น ราวกับลูกลิง
"พี่โน่!"
ร่างบางถูกวางลงกับโต๊ะทำงาน แจมินจริงค่อยๆคลายกอดออกแต่ไม่ทันจะทำอะไรก็ถูกมือหนาดันให้เอนไปด้านหลัง ร่างบางใช้มือทั้งสองข้างยันตัวเองไว้
เจโน่ยึดอำนาจเปลี่ยนเกมส์มารุกอย่างรวดเร็ว ร่างหนาก้มลงมาประเดิมป้อนจูบอย่างร้อนแรง ก้านนิ้วยาวปลดกระดุมชุดนักศึกษาเพียงไม่กี่เม็ดแล้วรั้งออกให้พ้นหัวไหล่ เพราะเป็นเสื้อover sizeทำให้มันลงไม่กองที่ข้อศอกของแจมิน
ไม่รอช้าเจโน่เริ่มแต่งแต้มผลงานลงบนผ้าใบผิวเนื้อ เริ่มจากซอกคอหอมกรุ่นไล่ลลมาที่แผ่นอกบางมาถึงยอดอกสีสวยลิ้นชื้นโลมเลียรอบฐานจนมันเริ่มแข็งตัวทำสลับทั้งสองข้าง
"ฮืม.." แจมินเริ่มครางออกมาเนื่องจากแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง
"..."
มือหนาเลื่อนลงมาทำหน้าที่ ณ จุดปล่อยยานเข็มขัดและกางเกงนักศึกษาถูกถอดออกด้วยความชำนาญ แจมินยกตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้คนพี่ถอดได้สะดวก
"นึกว่าพี่จะเบื่อ ผะ ผมซะแล้ว" แจมินเริ่มหอบ
เจโน่หยุดการกระทำผละออกมามองผลงานศิลปะของตัวเอง แจมินจะรู้ไหมว่าตอนนี้ตัวเองดูน่ากินมากๆผิวเนื้อเนียนถูกเคลือบด้วยน้ำใสๆจากปากของเขาบางจุดขึ้นสีกลีบกุหลาบน่ามอง
"พี่ไม่เคยเบื่อแจม"
"อื้อ-" ร่างหนาคุกเข่าลง โพรงปากอุ่นเข้าครอบครองแท่งเอ็นอุ่นแข็งขึงของคนน้องหากปล่อยทิ้งไว้อีกเดี๋ยวคนน้องจะทรมาน ส่วนตัวเขายังทนได้ นักศึกษาหนุ่มต้องยกแขนขึ้นมาปิดปากกลั้นเสียงเอาไว้
เจโน่รู้จักร่างกายแจมินดีกว่าตัวเองเสียอีก รู้ว่าต้องแกล้งต้องหยอกตรงไหนแจมินถึงจะมีความสุขที่สุด ก้านนิ้วยาวไล้วนที่ช่องทางเร้นลับ กดเบาๆเพื่อบอกให้แจมินรู้ตัว
"ฮือ ๆ" นักศึกษาหนุ่มก้มหน้าลงมาสบตากับอาจารย์พร้อมพยักหน้ารัวๆ แววตาเง้าวอนเอ่อน้ำน่ารังแกน้อยเสียที่ไหน ร่างสูงไม่รอช้ากดก้านนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าไปด้านใน

!!!
"อาจารย์คะ เอกสารที่อาจารย์ต้องการตรวจสอบดิฉันวางไว้หน้าห้องนะคะ"

แจมินเผลอสะดุ้งด้วยความตกใจเพราะประตูเป็นกระจกแบบขุ่นทำให้เห็นเงาของคนที่อยู่ด้านนอก ตอนเข้ามาเขายังไม่ได้ล็อคประตูด้วยซ้ำ หากอาจารย์ผู้หญิงคนนี้เปิดประตูเข้ามาชีวิตนักศึกษาเข้าจบเห่แน่ๆ
เจโน่ผละออก ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"ครับ ขอบคุณมาก" เจโน่ตอบออกไปด้วยเสียงปกติ
"ไลน์มาแล้วไม่ตอบ คิดว่าอาจารย์กลับไปแล้วซะอีก"
"เดี๋ยวทำงานเสร็จ ผมก็กลับแล้วครับ"
"ค่า เร็วๆนะคะ ยามจะมาปิดตึกแล้ว"
"ครับ"

เงาหน้าห้องหายไปแล้ว

"ผะ ผมยังไม่ได้ล็อคประตูเลย" แจมินพูดออกไปด้วยเสียสั่น เขาทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว ใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาข้างนอกอก
"รู้รึยังว่าทำไมพี่ถึงไม่ให้เรามาหา"
แจมินรู้ดี เพราะมันผิดไม่ใช่แค่ผิดกฏมหาลัยเท่านั้น มันยังผิดไปถึงจารีตประเพณีถึงแม้ว่าทั้งสองจะคบกันมานานก่อนที่ตัวแจมินจะเข้ามหาลัย แต่ด้วยสถานะตอนนี้ในสายตาของทุกคนทั้งสองเป็นเพียงอาจารย์และลูกศิษย์เท่านั้น จะให้มานั่งอธิบายให้ใครต่อใครฟังก็คงป่วยการ
"เพราะถ้าเป็นแจมพี่ไม่เคยอดใจได้"
"ฮือ จะไม่ทำอีกแล้ว" แจมินซุกหน้าลงที่แผ่นอกกว้างยกมือขึ้นกอดเอวสอบ
"เด็กดี" เจโน่ก้มลงกระซิบที่ข้างหู แล้วเริ่มเล่นเกมส์ต่อให้จบ
"ฮ่ะ อื้อ อื้อ" นิ้วที่ยังค้างอยู่ด้านในเริ่มขยับ
"ชู่ว~" ร่างสูงเตือนให้แจมินเงียบเสียง
"อื้อ ฮื้อ!" แต่มันยากเหลือเกิน เจโน่เองก็รู้ดี
จะหยุดตอนนี้ก็คงใจร้ายกับแจมินเกินไปไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรีบปลดปล่อยคนน้องแล้วรีบกลับ จะลงโทษเด็กดื้อต่อที่บ้านก็ยังได้ มือข้างทั้งยังว่างเลื่อนมากอบกุมส่วนที่อ่อนไหวของแจมินอีกครั้งนิ้วหัวแม่มือนวดคลึงกดย้ำแล้วขยับขึ้นลงจากเชื่องช้าก็เริ่มเร็วขึ้น
ร่างบางส่ายหน้าไปมาตรงหน้าอกของเขา มือบางกำเสื้อเขาแน่น ก็โดนโจมตีทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบนี้มันทั้งทรมานและมีความสุขมากเป็นธรรมดา
"จะ ฮะ ใกล้ ใกล้แล้วๆ" แจมินกระซิบบอกเสียงแผ่วคนพี่จึงเร่งมือ
"อื้ออ" ร่างบางกระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเลอะมือเขา เจโน่เอื้อมมือไปหยิบทิชชู่มาเช็ดมือและทำความสะอาดร่างกายคนน้อง แจมินค่อยๆคลายอ้อมกอดแล้วเริ่มแต่งตัว คนพี่แอบเผลอยิ้มกับท่าทางน่ารักนั้น
โยนทิชชู่ลงถังขยะแล้วรั้งร่างบางมาแนบอก ก้มลงไปจูบกลุ่มผมหน้าชื้นเหงื่อ
พี่ไม่เคยเบื่อแจมนะ พี่แค่อยากลองห่างๆกันดูเผื่อแจมอาจจะไปเจอใครแล้วชอบคนคนนั้นมากกว่าพี่ พี่อยากให้โอกาสแจมไปรู้จักคนอื่นบ้าง ทั้งชีวิตแจมมีแต่พี่ พี่ไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว
ห้ะ !?” แจมินผลักคนพี่ออกแล้วมองหน้าด้วยแววตาแข็งกร้าว
อือ
คิดได้ไงเนี่ย!? ฟังนะพี่โน่ แจมไม่เคยชอบใครไม่เคยมองใครเลยนอกจากพี่โน่ คิดว่าตลอดเวลาที่คบกันไม่มีคนมาจีบแจมรึไง มีสิ มีเยอะด้วย แต่แจมตัดสะพานทุกสายที่คนพวกนั้นยื่นเข้ามาเพราะอะไรรู้ไหม
แจมกระโดดลงจะโต๊ะทำงานแล้วก้าวมายืนประชิดร่างหนา
เพราะไม่มีใครเหมาะกับแจมเท่าพี่โน่แล้วก็ไม่มีใครเหมาะกับพี่โน่เท่ากับแจม จำไว้เลย!!”
พูดจบก็ดึงคนพี่เข้ามาจูบแรงๆเป็นการย้ำว่าที่พูดเมื่อกี้เป็นเรื่องจริง
เจอกันที่คอนโด!” ว่าแล้วก็สะบัดก้นออกไปจากห้องพักอาจารย์
หึหึ เจอแน่ตัวแสบ







.......................................................................

รู้ตัวว่าแก้บนช้า แต่ก็แก้แล้วไง อุแง้

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม